คลิปวิดีโอนี้เป็นเรื่องราวของ “คุณลุงต๋อย” ที่ต้องการจะทำเซอร์ไฟร้ส์ “ป้าแอ๊ด” ภรรยา เพื่อให้ความรักมีชีวิตชีวามากขึ้น ก็เลยร่วมมือกับน้องๆ ปริ้นภาพในอดีตขนาดใหญ่ ติดไว้ภายในห้องประชุม พร้อมกับจุดเทียนสร้างบรรยากาศ คล้อเสียงเพลง “รักไม่รู้ดับ” ของวงดนตรี ดิ อินโนเซ้นท์ เบาๆ พร้อมคำบรรยายเปิดท้ายคลิปว่า “นานแค่ไหน…ไม่เคยจืดจาง” เปรียบเสมือนคุณภาพของหมึกพิมพ์คอมพิวท์
ความหมายของคำว่า “Spirit” ของผู้ชนะที่แท้จริง
Derek Anthony Redmond เป็นนักวิ่งจากสหราชอาณาจักร
ซึ่งตอนนี้เขาแขวนรองเท้าเรียบร้อยแล้ว
เขาเป็นเจ้าของสถิติในการวิ่ง 400 เมตรของสหราชอาณาจักร
และได้เหรียญทองจากการแข่งขัน 4*400 เมตรจากการแข่งขัน
World Championships, European Championships และ Commonwealth Games
แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ผู้คนทั้งโลกจดจำเขาคือ Olympics Games ที่ Barcelona ในปี 1992
เขาคือหนึ่งในตัวเต็งในการแข่งขันครั้งนี้
หลังจากรอคอยมา 4 ปี เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
เอ็นร้อยหวายของเขาเกิดมีปัญหา เขาทรุดตัวลงและร้องไห้
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาตัดสินใจลุกขึ้น และวิ่งต่อ
เมื่อระยะทางเหลือประมาณ 100 เมตร คุณพ่อของเค้าก็มาช่วยประคองเข้าเส้นชัย
สี่ปีแห่งการรอคอย ความฝันของเค้าจบลงด้วยน้ำตาและความเสียใจ
แต่ spirit ที่ยิ่งใหญ่ของเค้า ได้รับการปรบมือ หรือ Standing Ovation ของผู้ชมทั้งสนาม
และคนทั้งโลกก็ได้เข้าใจความหมายของคำว่า spirit มากขึ้น
โลกได้จดจำเขาไปอีกนานแสนนานในฐานะ “ผู้ชนะ” ตัวจริง
_________________________________________________________________________________________

โลกกลมๆ ใบนี้ ไม่มี อะไรได้มา ฟรี ๆ
ของ ฟรีไม่เคยมี ของ ดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ ไว้ใจ ไปให้ คิดถึง
คน เราต้องเดินหน้า เวลา ยังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจ ว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้ จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมี ใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่ เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า } แน่นอน ~
คนเรา เมื่อ ตัวตาย ก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผล ของ คน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของ คน อีก คน หนึ่ง
ถ้าไม่ลอง ก้าว จะ ไม่มีวันรู้ ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทาง อันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้อง เริ่มต้นด้วยก้าวแรก ก่อนเสมอ
ปัญหา ทุกอย่าง อยู่ที่ ตัวเรา ทั้งสิ้น
จะเห็นค่า ของความอบอุ่น เมื่อผ่าน ความเหน็บหนาว มาแล้ว
อันตราย ที่สุดคือ การคาดหวัง
เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จง ใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลัง ความเข้มแข็ง สมควรมี ความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดี กับสิ่งที่ได้มา และ ยอมรับ กับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุ ผ่านไป ฟ้า ย่อม สดใส เสมอ
หลังผ่าน ปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้น เล็กนิดเดียว
ไม่เป็น ขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็น คนไม่ได้
มีแต่ วันนี้ ที่มีค่า ไม่มี วันหน้า วันหลัง
เมื่อวาน ก็สายเกินแล้ว พรุ่งนี้ ก็ สายเกินไป
อย่าหวัง ว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่ คุณรัก ไม่ได้ รักคุณ หมดทุกคน
เพื่อนทั่วไป ไม่เห็นคุณร้องไห้
เพื่อนแท้ มีหัวไหล่ไว้คอยซับน้ำตาให้
เพื่อนทั่วไป ถือขวดไวน์ติดมือมางานปาร์ตี้ของคุณ
เพื่อนแท้ จะมาแต่หัววันเพื่อช่วยเตรียมงาน
เพื่อนทั่วไป คาดหวังให้คุณเคียงข้างเขาเสมอ
เพื่อนแท้ คาดหวังที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป
เพื่อนทั่วไป เข้าหาผลประโยชน์ ที่ได้รับจากเรา
ดวงความรัก ปี 2554
ราศีเมษ ซึ่งเป็นผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 13 เมษายน -13 พฤษภาคม
ราศีพฤษภ เกิดระหว่างวันที่ 14 พฤษภาคม -13 มิถุนายน
ราศีเมถุน เกิดระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน -14 กรกฎาคม
ราศีกรกฏ ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม -16 สิงหาคม
ที่เกิดราศีนี้ความรักจะลุกโชนในช่วงพระจันทร์เต็มดวง ทั้งข้างขึ้น 1 ค่ำและ 15 ค่ำ เป็นคนธาตุน้ำ โดยจะพบรักพิเศษที่ไม่ใช่สเปก
จะอยู่ตั้งแต่เดือน มีนาคม เมษายน มิถุนายน และพฤศจิกายน ส่วนเมื่อย่างเข้าสู่ปี 2555 ก็ยังมีให้ลุ้นได้เช่นกันสำหรับผู้ที่พลาดในช่วงนี้ไปแล้ว
ราศีสิงห์ เกิดระหว่างวันที่ 17 สิงหาคม-16 กันยายน
ผู้ที่เกิดราศีนี้ความรักจะโลดโผนโจนทะยานอารมณ์รักร้อนแรงเนื่อง จากเป็นคน ธาตุไฟ ทำนองเสียหน้าไม่ได้ ใจโต ชอบสิ่งดีๆ
ควรระวังเรื่องของอารมณ์ที่เบื่อง่าย น่าค้นหาแต่ก็ไม่ควรเปิดเผยจนหมด คู่ครองจะดูแก่กว่าทั้งรูปร่าง หน้าตา หรือวุฒิภาวะ
โดยอาจจะเป็นพ่อม่าย แม่ม่าย หรือผู้ที่พลัดพรากจนคนอื่นมาก่อน ไม่แน่อาจจะเป็นชาวต่างประเทศ คู่ครองจะต้องเป็นคนหลากหลายอารมณ์
อาจจะดูทันสมัย ไม่เชยจนเกินไป วิธีทำให้สมรักในปีนี้ควรวางรูปปั้นสิงห์คู่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก สิ่งสำคัญอาจได้พบรักโดยบังเอิญ
เช่น จะได้พบรักบนเครื่องบินอย่างไม่คาดฝัน ควรทำบุญโดยบริจาคหนังสือเรียน หนังสือธรรมมะ สร้างทานช่วยให้ดีขึ้น มั่นคง
หากคบใครมาก่อนนี้จะเลิกกัน แต่ถ้าใช่เลยจะแต่งงานทันที ถ้าไม่เคยมีแฟนมาก่อนก็จะเจอแบบไม่คาดฝันนั่นเอง
โดยช่วงเวลาสมหวังของความรักนั้นจะอยู่ในช่วงวันที่ 29 กันยายน 2554 – 17 เมษายน 2555 หลังจากช่วงนี้จะดูไม่ค่อยสดใสเท่าไร
ราศีกันย์ เกิดระหว่างวันที่ 17 กันยายน – 16 ตุลาคม
ราศีตุลย์ เ กิดระหว่างวันที่ 17 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน
ราศีพิจิก เกิดระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม
ราศีธนู ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม – 15 มกราคม
ราศีมังกร เกิดระหว่างวันที่ 16 มกราคม-12 กุมภาพันธ์
ราศีกุมภ์ เกิดระหว่างวันที่13 กุมภาพันธ์-13 มีนาคม
ราศีมีน เกิดระหว่างวันที่ 14 มีนาคม-12 เมษายน
ทั้งนี้ความรักของ 12 ราศีที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงรายละเอียดส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่โดยทั่วไปนั้นปีนี้จะเป็นโอกาสดี เกณฑ์ดี เมื่อแต่งงานจะมีบุตรที่ดีเกื้อหนุนครอบครัว แต่หากยังไม่สมหวังก็ไม่ควรท้อแท้ แต่ควรหันไปทำบุญทำทานให้มากขึ้น เพราะบางคู่นั้นต้องผูกพันกันมาก่อน ไม่แน่ไม่นอนเสมอไปเพราะชาตินี้อาจจะต้องมาหาเนื้อคู่กันด้วยการทำบุญร่วม กันไว้ก่อนอธิษฐานให้เทวดาฟ้าดินช่วยดลบันดาล ประทานพรจึงจะสมหวังเรื่องคู่ครองเช่นคนอื่น ๆ ราศีมังกรจะดูชัดเจนมากที่สุด รองลงมาเป็นราศีเมษและสิงห์ แต่ควรระวังราศีธนูในช่วงเดือนมิถุนายน
สำหรับปีที่ชงกันในปี 2554 นี้ได้แก่ ระกา มะโรง และ ชวด ปีเสริมส่งที่ดีได้แก่ จอ กุน และมะแม
สายลมแห่งการให้อภัย
|
|||
|
|||
|
|||
|











































แม่ยังอยู่ที่เดิมเสมอ
รีบกลับไปหาแม่ ไปขอโทษท่านหากคุณ คุณ และคุณ
ลูกในทุกๆวัน เพราะ แม่คือ แม่ ไง และเจ้าคือลูกรักของท่านเสมอ
______________________________________
มีความสุขแบบที่เรามีก็พอ
ไม่ต้องบินให้สูงอย่างใครเขา … จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แค่บินไปให้ถึงฝัน เท่านั้นพอ ถ้าโกรธกับเพื่อน. . . มองคนไม่มีใครรัก ถ้าเรียนหนัก ๆ . . . มองคนอดเรียนหนังสือ ถ้างานลำบาก . . . มองคนอดแสดงฝีมือ ถ้าเหนื่อยงั้นหรือ . . . มองคนที่ตายหมดลม ถ้าขี้เกียจนัก . . . มองคนไม่มีโอกาส ถ้างานผิดพลาด . . . มองคนไม่เคยฝึกฝน ถ้ากายพิการ . . . มองคนไม่เคยอดทน ถ้างานรีบรน . . . มองคนไม่มี เวลา
ถ้าตังค์ไม่มี . . . มองคนขอทานข้างถนน ถ้าหนี้สินล้น . . . มองคนแย่งกินกับหมา ถ้าข้าวไม่ดี . . . มองคนไม่มีที่นา ถ้าชีวิตนี้แย่ . . .มองคนที่แย่ยิ่ง กว่า
อย่ามองแต่ฟ้า . .. . ที่สูงเกินตาประจักษ์ ความสุขข้างล่าง . . . มีได้ไม่ยากเย็นนัก เมื่อรู้แล้ว . . . จัก . . . ภาคภูม ิชีวิตแห่งตน
______________________________________ ภาพสวยๆๆ..และข้อคิดดีดี….
10 เรื่องดีดี
คิดทุกคำที่พูด แต่อย่าพูดทุกคำที่คิดเวลาฝรั่งถามจะได้ตอบถูก the wet คือ อะไร ? เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างที่เรากำลังเดินไปกินข้าว ก็มีแหม่มฝรั่งอยู่คนหนึ่ง เป็นนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็ค เดินเข้ามาถามเราว่า “Execute me. How can I go to the wet?” “Hmm? What wet?” “No. I mean the place.” สถานที่…แล้วสถานที่ไหนเปียกวะ? “Pub right?” ชื่อผับหรือเปล่าหว่า “No.” “You mean… WEST?” “No, I said THE WET not THE WEST!” “So what would you do on the wet?” จากนั้นแหม่มจึงหยิบแผนที่มาให้ดู “I’ll like to go this place. It’s said there’s near the wet.” เธอชี้ไปที่ๆแห่งหนึ่ง ซึ่งเราอ่านไม่รู้เรื่อง เพราะแผนที่มันเป็นภาษาอังกฤษ และบอกชื่อสถานที่ต่างๆ เป็น ภาษาคาราโอเกะ แถมลายมือก็สุดยอดด้วย อ่านยากโคตรๆ มวดตีลังกาได้ตั้งหลายตลบ “Do you know how could I go this place?” “…” เดินถนนสายนี้มา5-6ปี ยังไม่เคยรู้จักเลยว่าเดอะว้งเดอะเว็ดอยู่ที่ไหน สงสัยแหม่มจะมาผิดที่ ซะแล้วล่ะมั้ง กินข้าวเสร็จเดินกลับมายังเห็นเธอเดินอยู่เลย ……… ใครรู้มั่ง Thewet อยู่ที่ไหน ……. _________________________________ เรื่อง ดีดี ที่คุณต้องอ่าน เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเข้าไปหาแม่ แล้วส่งกระดาษให้แม่ หลังจากแม่เช็ดมือกับผ้ากันเปื้อนแล้ว จึงก้มลงอ่าน… > ค่าตัดหญ้า ๕.๐๐ บาท > ค่าทำความสะอาดห้องทั้งอาทิตย์ ๒.๐๐ บาท > ค่าซื้อของให้แม่ ๒.๕๐ บาท > ค่าดูแลน้องชาย ๑.๐๐ บาท > ค่าเอาขยะไปทิ้ง ๑.๐๐ บาท > ค่าได้คะแนนเรียนดี ๕.๐๐ บาท > ค่ากวาดห้องนอน ๒.๐๐ บาท ผู้เป็นแม่หยิบปากกา พลิกกระดาษไปด้านหลัง แล้วเขียนว่า… * เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง ไม่คิดเงิน * เวลาแม่พยาบาลลูก สวดมนต์ให้ลูก ไม่คิดเงิน * ค่าที่ลูกทำให้แม่เสียน้ำตา ไม่คิดเงิน * ค่าของเล่น, อาหาร, เสื้อผ้า, พาเที่ยว ไม่คิดเงิน * แม้แต่เช็ดขี้, เช็ดเยี่ยวให้ลูก ไม่คิดเงิน * มีอีกหลายอย่างที่แม่ทำให้ลูก ไม่คิดเงิน เมื่อลูกชายตัวน้อยได้อ่านข้อความที่แม่เขียน..น้ำตาก็ไหลออกมา… เขาสบตาแม่แล้วพูดว่า “แม่ครับ ผมรักแม่จริง ๆ ครับ” แล้วก็เอาปากกาเขียนหนังสือตัวโตไว้ว่า… “จ่ายหมดแล้ว แม่จ่ายหมดแล้ว แต่ลูกทอนยังไม่หมด” _________________________10 วลีทองของคนคิดบวก ++ 1. I’m wrong – ฉันผิดเอง 2. I’m sorry – ฉันขอโทษ 3. You can do it – คุณทำได้!!! 4. I believe in you – ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ 5. I’m proud of you – ฉันภูมิใจในตัวคุณ 6. Thank you – ขอบคุณ 7. I need you – ฉันต้องการคุณ 8. I trust you – ฉันเชื่อใจคุณ 9. I respect you – ฉันนับถือคุณ 10. I love you – ฉันรักคุณ แด่คำพูดดี ๆ ที่สะท้อนมาจากความคิดอันงดงาม แด่ความคิดดี ๆ ที่อยากให้ผู้อื่นรอบ ๆ มีความสุข หวังว่าโลกเล็กๆ ใบนี้จะน่าอยู่ขึ้นน่ะจ๊ะ +++++++++++++++++++ วิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริง!!! ~ ใครที่ชอบถ่ายรูปมาก ๆ ฟังทางนี้ วันนี้เกร็ดความรู้มีวิธีถ่ายรูปให้ดูดีกว่าตัวจริงมาบอกกัน… 1. เลือกเสื้อสีเหมาะกับผิว บางสีทำให้ดูเด่น อย่างคนผิวดำมาก ๆ ใส่ออกครีม ๆ เรียบ ๆ ดูดี 2. หันสิว ไฝ ฝ้า กลาก เกลื้อน หลบกล้อง 3. หามุมท่าไม้ตาย ลองหันหน้าเอามุมต่าง ๆ เข้ากล้องแล้วดูว่ามุมไหนดูดีสุด จำไว้แล้วใช้บ่อย ๆ 4. คางตูดออกไป คนคางตูดก้มหน้านิด ๆ หรือเอามือมาทำเป็นเท้าคางบังตูดบนคางซะ 5. ผ่อนคลาย บางคนเห็นกล้องแล้วเกร็ง ให้หายใจลึก ๆ ลืมซะว่ามีกล้องอยู่ 6. คิดเรื่องขำ ๆ จะได้ยิ้มธรรมชาติ 7. ยิ้มหวานเยิ้ม คิดซะว่ากล้องเป็นกิ๊กใหม่ 8. หลังตรงอกแอ่น สาว ๆ แอ่นก้นด้วย 9. ทำตัว 3D นางแบบอาชีพใช้ร่างกาย 3 ใน 4 เข้าใกล้กล้อง ที่เหลือเลื่อนออกไปไกลหน่อย 10. ถ่ายที่มืด มองเหนือกล้องนิด ๆ จะได้ไม่เป็นผีตาแดง ___________________________ ดื่มน้ำตอนไหน….ดีที่สุด ?????? ทราบหรือไม่ว่าการดื่มน้ำก็ต้องมีเวลาที่ดื่มแล้ว ให้ประโยชน์สูงสุดเหมือนกัน วันนี้เรามีเรื่องนี้มาฝาก… ตื่นนอนตอนเช้า 1 แก้ว (400 ซี.ซี.) เพราะเป็น ช่วงที่มีความเข้มข้นของเลือดสูง เลือดจะมีลักษณะขาดน้ำ ตอนสายๆ 2 แก้ว (เวลาประมาณ 9 โมงถึง 10 โมงเช้า) ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีของเสียเกิดขึ้น เพราะร่างกายได้ทำงาน ไประยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้น จึงควรดื่มน้ำเพื่อมาชำระของเสีย เหล่านั้นออกไป ตอนบ่ายๆ 3 แก้ว (เวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง) ตอนเย็น 3 แก้ว (เวลาประมาณ 1 ทุ่มถึง 2 ทุ่ม) ก่อนนอนให้ดื่มน้ำอีก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำที่ดื่มไหลเวียน ชะล้างสิ่งตกค้างในลำไส้และกระเพาะอาหาร ยิ่งถ้าเป็นน้ำอุ่นด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้หลับสบายยิ่งขึ้น การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย และก็ควรดื่มให้ได้อย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดี _______________________________ เด็กชายนักสู้ Cody ผู้มีหลายขา ดูแต่ละภาพแล้วรู้สึกว่าเค้า…ใช้ชีวิต อย่างมีความสุขจิง ๆ คับ และทำให้เรารู้สึกว่า… ยังมีคนที่เค้าสู้ชีวิตทั้ง ๆ ที่เค้าด้อยกว่าเรามากเลยคับ อ่านจบแล้ว คิดยังไงกับตัวเอง บอกหน่อยสิคร้าบๆๆๆๆๆๆ
เด็กชายตัวน้อยชื่อ Cody Mccosland เด็กชาวอังกฤษ ผู้มีขาหลายคู่ เขาบ้าเล่นกีฬา แต่ก็เกิดมาโดยไม่มีกระดูกหัวเข่า ทำให้ต้องตัดขาท่อนล่างทิ้งตั้งแต่อายุ 15 เดือน วัยที่คนอื่นเดินเตาะแตะ แต่เขาเดินไม่ได้ แต่สองเดือน ต่อมา เขาก็เริ่มหัดใช้ขาเทียมคู่แรก
ตอนนี้ Cody อายุ 7 ชวบแล้ว ในภาพล่างเขาเล่นสกีน้ำ แต่อันที่จริง เขาเล่นทั้งว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ตีกอล์ฟ เล่นคาราเต้ เบสบอล และฮอคกี้น้ำแข็ง
ภาพล่างเขาขี่จักรยานสามล้อ พร้อมรอยยิ้มมีความสุข ที่มีให้เห็นเสมอ
ตามมาด้วยเขาขี่ม้า พ่อกะแม่ตั้งความหวังจะพาเขาดูโอลิมปิก ที่กรุงลอนดอน เป็นเจ้าภาพใน ปี 2012 ด้วย
ภาพเขาวิ่งด้วยขาคู่ที่ดูแปลกแต่น่าจะช่วยให้วิ่งได้ เร็วนิ สมกับสมญานาม The Boy With The Magic Legs จริงๆ
ขาเทียมของเขาได้รับบริจาคจากศูนย์ขาเทียม โรงพยาบาลเด็ก Texas Scottish Rite Hospital แต่เขาโตเร็วต้องเปลี่ยนขาอยู่เป็นประจำ
Cody กับครอบครัวและเพื่อนๆจึงเข้าร่วมงานการ กุศลหาเงินช่ วยโรงพยาบาล ได้เงินบริจาคมา มากกว่า 6 หมื่นปอนด์แล้ว
Cody ไม่ยอมให้มีอะไรเป็นอุปสรรคต่อชีวิตของเขา เราจึงได้เห็นภาพเขาเล่นฮอคกี้น้ำแข็งในภาพล่าง เท่ห์ชมัด
กว่าจะมาเป็นเด็กชายสุขภาพดีหน้าเปื้อนยิ้มในวันนี้ Cody ผ่านอะไรๆมาเยอะ รวมทั้งช่วงหนึ่งของชีวิต ที่เขาต้องผ่าตัดหลายต่อหลายครั้ง จากปัญหา ระบบภายในร่างกาย รวมทั้งต้องบำบัดอาการหายใจ ติดขัดและหอบหืด
ใครที่กำลังท้อถอย ทั้งที่มีมือมีเท้าครบ อย่าทำตัวให้อาย Cody นะจ๊ะ _________________________
_________________________________
|
ขออนุณาตนำการ์ตูนมาทำเป็นอีบุ๊คให้เด็กๆ อ่านนะครับ ^^